
แต่ทุกคน(ส่วนใหญ่) อาจจะมี “ความรัก” ที่อ่อนไหว
จะมีใครบ้างที่ไม่เคยอมยิ้มคนเดียวเพราะ "ความรัก"
และจะมีใครบ้างที่ “ความรัก” ไม่เคยทำให้ร้องไห้แม้แต่ครั้งเดียว
หลายคนจึงบอกว่า
“ความรัก” เป็นเหมือน “ทะเล”
มีเวลาที่นิ่งสงบ มีเวลาที่มีคลื่นลม
มีเวลาที่สวยงาม และมีเวลาที่น่ากลัว
แต่ถึงอย่างไร ใครต่อใครก็ยังอยากจะไปทะเล
เช่นกันไม่ว่าจะอย่างไร ใครต่อใครก็ยังอยากจะมีความรัก
แม้ว่ารักนั้นจะเป็นรักข้างเดียว
แม้รักนั้นจะทำให้ทุกข์ทรมานสักเพียงใด
แม้รักจะทำให้หลับไปทั้งน้ำตาของความเสียใจก็ตาม
แล้วจะรักแบบไหน? ให้พอดีในความอ่อนไหว
ไม่จืดชืดเย็นชาจนน่าเบื่อ ขณะเดียวกันก็มีความมั่นคงในใจ
คำตอบที่มีให้ คือให้ รั ก กั น แ บ บ ทะ เ ล
โดย ห่วงใยกัน ให้มากเท่าเท่ากับเม็ดทราย
ให้อภัยกัน ให้ได้ . . .
เหมือนที่ทะเลไม่เคยโกรธเกลียวคลื่น
. . . ไม่ว่าคลื่นจะโหมกระหน่ำรุนแรงแค่ไหน
ในบางครั้งที่ต้องห่างไกล หัวใจก็ต้องคงมั่นได้เหมือนโขดหิน
. . . ไม่เปลี่ยนใจง่าย ไม่อ่อนไหวไปรักคนอื่น
ให้ความอิสระ เหมือนอย่างนกทะเลต้องการจากท้องฟ้า
. . . อย่ากักขังคนรักไม่ให้คบเพื่อน ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น
แล้วเพื่อนๆ ล่ะ เปรียบความรักของคุณที่มีอยู่ตอนนี้ เหมือนกับอะไรกานบ้างอ่าคะ
ความผูกพันไม่ใช่คุก ถึงจะคบกันแล้วก็ไม่ได้หมายความว่า
. . .ต้องสบตาฉันคนเดียวเท่านั้น
และไม่ทำตัวเป็นเจ้าของหรือออกกฏหมายบังคับอีกคน
. . . เพราะทะเลก็ยังไม่เคยครอบครองปลา
แล้ว “ความรัก” ที่แม้จะดูอ่อนไหวและแปรปรวน
ก็จะเป็น “ความรัก” ที่มีอยู่นาน เช่นเดียวกับที่ทะเลมีอยู่บนโลกนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น